Search :

Project Project Title : การปรับปรุงคุณภาพของกากมันสำปะหลังเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่สำหรับไก่เนื้อ (The improving cassava pulp quality as alternative energy source for broilers)     downloaded 146 times Researcher Name : สุทิศา เข็มผะกา (Sutisa Khempaka) Abstract : บทคัดย่อ อุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังก่อให้เกิดเศษเหลือคือ กากมันสำปะหลัง จากกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมากในแต่ละปี กากมันสำปะหลังมีแป้งเป็นองค์ประกอบอยู่สูง (50-70%) แต่มีปริมาณโปรตีนต่ำ และเยื่อใยสูง จึงเป็นข้อจำกัดในการใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับไก่เนื้อ อย่างไรก็ตามหากมีการหมักกากมันสำปะหลังร่วมกับเชื้อจุลินทรีย์เพื่อเพิ่มโปรตีน หรือการเสริมเอนไซม์เพื่อย่อยเยื่อใยที่เป็นองค์ประกอบอยู่ในกากมันสำปะหลัง น่าจะสามารถเพิ่มระดับการใช้ในอาหารไก่เนื้อได้ ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพของการใช้กากมันสำปะหลังในอาหารไก่เนื้อ โดยประกอบด้วย 5 การทดลอง การทดลองที่ 1 ใช้เชื้อ Saccharomyces cerevisiae, Candida utilis และ Aspergillus oryzae ร่วมกับการใช้แหล่งไนโตรเจนจากยูเรียที่มีความเข้มข้นต่างกัน 6 ระดับ (0, 0.25, 0.50, 0.75, 1.00 และ 1.25%) หมักกากมันสำปะหลังเป็นเวลา7 วัน ทำการวัดปริมาณน้ำตาลรีดิวซ์ โปรตีนและอะมิโนไนโตรเจนทุกวัน ผลการทดลองพบว่า การหมักกากมันสำปะหลังด้วยเชื้อ A. oryzae โดยใช้ยูเรียที่ระดับ 0.75% หมักเป็นเวลา 4 วัน สามารถเพิ่มโปรตีน และอะมิโนไนโตรเจนได้สูงกว่าการหมักด้วยเชื้อ S. cerevisiae และ C. utilis ซึ่งที่สภาวะดังกล่าวสามารถเพิ่มการผลิตโปรตีน และ อะมิโนไนโตรเจนในกากมันสำปะหลังจาก 2.59 และ 0.90% (กากมันสำปะหลังที่ไม่ได้หมัก) เป็น17.40 และ 15.13% ตามลำดับ การทดลองที่ 2 ศึกษาผลของการใช้กากมันสำปะหลังหมักเชื้อรา A. oryzae โดยใช้ยูเรียที่ระดับ 0.75% หมักเป็นเวลา 4 วันในอาหารไก่เนื้อต่อการย่อยได้และใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ โดยใช้ไก่เนื้อเพศผู้จำนวน 49 ตัว ที่อายุ 15 วัน แบ่งไก่ออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 7 ซ้ำ ตามแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ทำการสุ่มไก่ให้ได้รับอาหารที่มีกากมันสำปะหลังหมัก 7 กลุ่ม (สูตรควบคุม 1 กลุ่ม และกากมันสำปะหลังหมัก 6 กลุ่ม: 4, 8, 12, 16, 20 และ 24%) เลี้ยงเป็นเวลา 10 วัน ผลการทดลองพบว่าการย่อยได้และการใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะลดลงตามระดับการเพิ่มขึ้นของกากมันสำปะหลังหมัก แต่ไม่พบความแตกต่างทางสถิติเมื่อใช้กากมันสำปะหลังหมักที่ระดับ 16% การทดลองที่ 3 ศึกษาผลของการใช้กากมันสำปะหลังหมักในอาหารไก่เนื้อต่อสมรรถนะการเจริญเติบโต คุณภาพซาก และค่าทางชีวเคมีของโลหิต โดยใช้ไก่เนื้อเพศผู้อายุ 1 วัน จำนวน 270 ตัว สุ่มแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม เพื่อรับอาหารทดลอง (สูตรควบคุม 1 กลุ่ม และกากมันสำปะหลังหมัก 5 กลุ่ม: 4, 8, 12, 16 และ 20%) เลี้ยงเป็นเวลา 42 วัน ผลการทดลองพบว่าสามารถใช้กากมันสำปะหลังหมักเป็นแหล่งพลังงานในสูตรอาหารไก่เนื้อที่ระดับสูงสุด 16% โดยไม่ส่งผลต่อสมรรถนะการเจริญเติบโต คุณภาพซาก สีเนื้อ และค่าทางชีวเคมีของโลหิต อย่างไรก็ตามการใช้กากมันสำปะหลังหมักที่ 20% มีผลให้น้ำหนักตับเพิ่มขึ้น (P<0.05) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม และกากมันสำปะหลังหมักที่ระดับ 4-16% นอกจากนี้ยังพบว่ากากมันสำปะหลังหมักไม่ส่งผลกระทบต่อค่าแอคติวิตีของเอนไซม์แอสพาเตทอะมิโนทราเฟอเรส (aspartate aminotransferase: AST) และเอนไซม์อะลานีนอะมิโนทรานเฟอเรส (alanine aminotransferase) ของไก่เนื้อ การทดลองที่ 4 การศึกษาผลของการใช้กากมันสำปะหลังร่วมกับการเสริมเอนไซม์ไซลาเนสต่อการย่อยได้และใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะในไก่เนื้อ โดยใช้ไก่เนื้อเพศผู้จำนวน 49 ตัว ที่อายุ 22 วัน แบ่งไก่ออกเป็นกลุ่ม 7 กลุ่ม กลุ่มละ 7 ซ้ำ ทำการสุ่มไก่ให้ได้รับอาหารทดลอง 7 กลุ่ม (สูตรควบคุม และกากมันสำปะหลังระดับ 8, 12 และ 16%) เสริมด้วยเอนไซม์ไซลาเนสที่ระดับ 0.1 หรือ 0.2% เลี้ยงเป็นเวลา 10 วัน ผลการทดลองโดยภาพรวมแล้วสรุปได้ว่า การเสริมเอนไซม์ ไซลาเนสสามารถเพิ่มการย่อยได้และใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะในกากมันสำปะหลัง โดยการเสริมทั้งสองระดับให้ผลไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาต้นทุนค่าอาหารร่วมด้วย การเสริมที่ระดับ 0.1% น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับไก่เนื้อ การทดลองที่ 5 การศึกษาผลของการใช้กากมันสำปะหลัง ร่วมกับการเสริมเอนไซม์ไซลาเนสต่อสมรรถนะการเจริญเติบโตและคุณภาพซากของไก่เนื้อ โดยใช้ไก่เนื้อเพศผู้อายุ 1 วัน จำนวน 320 ตัว สุ่มแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อรับอาหารทดลอง (สูตรควบคุม 1 กลุ่ม และกากมันสำปะหลัง 8, 12 และ 16% เสริมด้วยเอนไซม์ไซลาเนสระดับ 0.1%) ผลการทดลองพบว่าการเสริมเอนไซม์ไซลาเนสที่ระดับ 0.1% สามารถเพิ่มระดับการใช้กากมันสำปะหลังได้ถึงระดับ 16% ในสูตรอาหารโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะการเจริญเติบโต และคุณภาพซากของไก่เนื้อ โดยสรุปการปรับปรุงคุณภาพกากมันสำปะหลังโดยวิธีการหมักด้วยเชื้อ A. oryzae หรือการเสริมเอนไซม์ไซลาเนส 0.1% สามารถเพิ่มระดับการใช้กากมันสำปะหลังในสูตรอาหาร ไก่เนื้อได้ถึงระดับ 16% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการย่อยได้และใช้ประโยชน์ได้ของโภชนะ สมรรถนะการเจริญเติบโต และคุณภาพซาก ABSTRACT Annually the tapioca starch industry generates a large amount of waste in the form of cassava pulp. This pulp contains a high volume of starch (50-70%) but contains low amounts of protein and high fiber, these factors limit its use as feedstuff for broilers. However, if this pulp is fermented with microorganisms to improve protein or is supplemented with enzyme to digest fiber constitutes in the pulp, this would increase the inclusion levels in broiler diets. Therefore, this experiment aimed to study the potential use of cassava pulp in broiler diets. The study consisted of 5 experiments as follows: In experiment 1, Saccharomyces cerevisiae, Candida utilis and Aspergillus oryzae were use to ferment cassava pulp by varying the concentration of nitrogen (N) source from urea at 6 levels (0, 0.25, 0.50, 0.75, 1.00 and 1.25%) for 7 days. Reducing sugars, crude proteins and amino N were measured daily. The results showed that cassava pulp fermented with A. oryzae using 0.75% urea for 4 days enhanced the higher protein and amino N content more than S. cerevisiae and C. utilis. This condition can increase protein and amino N from 2.59 and 0.9% (unfermented) to 17.4 and 15.13%, respectively. Experiment 2 studied the effect of cassava pulp fermented with A. oryzae using 0.75% urea for 4 days in broiler diet on nutrient digestibility and retention. Forty-nine fifteen-day old male chickens were placed in individual cages and assigned randomly to 7 dietary treatment groups (one control and six fermented cassava pulp: 4, 8, 12, 16, 20 and 24%) for 10 days. The results indicated that nutrient digestibility and retention decrease with increasing levels of fermented cassava pulp. Overall, these parameters were not significantly decrease when fermented cassava pulp was included up to 16% in diets. Experiment 3 studied the effect of fermented cassava pulp in broiler diets on growth performance, carcass quality and blood biochemistry. Two hundred and seventy one-day old male chickens were randomly distributed to 6 dietary treatment groups (one control and five fermented cassava pulp: 4, 8, 12, 16 and 20%) for 42 days. The results showed that fermented cassava pulp could be used as an energy source with inclusion level up to 16% in broiler diets which had no significant effects on growth performance, carcass composition, meat color and blood biochemistry. However, the use of fermented cassava pulp at 20% resulted in increased liver weight (P<0.05) compared with control and fermented cassava pulp at levels of 4-16%. Moreover, it was found that fermented cassava pulp had no detrimental effects on aspartate aminotranferase (AST) and alanine aminotranferase (ALT) of broilers. Experiment 4 studied the effect of using cassava pulp with xylanase enzyme supplementation on nutrient digestibility and retention. Forty-nine twenty two-day old male chickens were placed in individual cages and assigned randomly to 7 dietary treatment groups (control and cassava pulp at levels of 8, 12 and 16% supplemented with 0.1 or 0.2% xylanase) for 10 days. Over all, the results indicated the addition of xylanase enzyme could improve nutrient digestibility and retention of cassava pulp. However, when considered in conjunction with feed cost the addition of xylanase at 0.1% would the most suitable level for broilers. Experiment 5 studied the effect of cassava pulp supplemented with xylanase enzyme on growth performance and carcass quality of broilers. Three hundred, twenty one-day old male chickens were randomly distributed within 4 dietary treatment groups (one control and 8, 12 and 16% cassava pulp supplemented with 0.1% xylanase) for 42 days. The results showed that supplemental 0.1% xylanase could increase the inclusion level of cassava pulp up to 16% without showing significant effects on growth performance and quality of broilers. In conclusion, the improvement cassava pulp quality by fermentation with A. oryzae or supplementation with 0.1% xylanase enzyme can be used in broiler diets up to 16% without detrimental effects on nutrient digestibility and retention, growth performance and carcass quality. Publications : No  View Publications  Detail Award/Honor :  Name  Sponsor  Get Date

IRD SEARCH | IRD LOGIN